สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
หรือ สทน. โดยรองศาสตราจารย์ ดร. ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ และ บริษัท บริษัท นิวเคลียร์ ซิสเต็ม จำกัด โดยนายธนัฐ จอมแก้ว กรรมการผู้จัดการบริษัทนิวเคลียร์ ซิสเต็ม จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาระบบสังเคราะห์สารเภสัชรังสี และแนวทางการจัดสรรผลประโยชน์หลังจากได้ผลงานวิจัยและพัฒนาสำเร็จแล้ว
จากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์จึงมีการพัฒนาสารเภสัชรังสี 68Ga-PSMA (Gallium-68 Prostrate Specific Membrane Antigen) ซึ่งได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมาก เพื่อใช้ในการกำหนดระยะโรคและการวางแผนการรักษา การประเมินผลการรักษาและการตรวจวินิจฉัยการกลับมาเป็นซ้ำของโรค ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการหายขาดจากโรคของผู้ป่วยได้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามการเตรียมสารเภสัชรังสี 68Ga-PSMA สามารถเตรียมได้ 2 วิธีการ คือการผสมด้วยมือ (Manual Labeling) และการเตรียมโดยใช้เครื่องสังเคราะห์สารเภสัชรังสี (Radiopharmaceuticals Synthesis) ซึ่งทั้งอุปกรณ์และสารเคมีที่มีการขายทั่วไปนั้นต้องนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น และราคาค่อนข้างแพงมากประมาณ 3-5 ล้านบาท ปัจจุบันการผลิตสารเภสัชรังสี 68Ga-PSMA ดังกล่าวที่ผลิตโดยศูนย์ไอโซโทปรังสี (ศอ.) ของ สทน. เพื่อให้บริการแก่โรงพยาบาลนั้น ใช้วิธีการผสมด้วยมือโดยนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งการผลิตในแต่ละครั้งนั้นเจ้าหน้าที่จะได้รับรังสีในปริมาณมาก
ดังนั้น สทน. และ บริษัท นิวเคลียร์ ซิสเต็ม จำกัด จึงได้ตกลงร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ความปลอดภัยด้านรังสีเพื่อให้ได้นวัตกรรมสินค้า และบริการใหม่ คือ เป็นเครื่องติดฉลากไอโซโทปรังสี Ga-68 PSMA และ Ga-68 Dotatate สำหรับใช้ตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยเป็นเครื่องแบบ Semi-manual labeling module ที่ใช้งานสะดวกและได้รับรังสีเท่าที่จำเป็น และเพื่อสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ไอโซโทปรังสี และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ทางการแพทย์ สทน.มีหน้าที่หลักในการออกแบบ ประกอบ ทดลองใช้เครื่องต้นแบบ ให้สามารถใช้งานได้จริง พร้อมทั้งสามารถวางแผนการผลิตเครื่องเชิงพาณิชย์ได้อย่างถูกต้อง ในส่วนของ บริษัท นิวเคลียร์ ซิสเต็ม จำกัด จะได้สิทธิในการเป็นผู้จัดจำหน่ายผลงานวิจัยและพัฒนาแต่เพียงผู้เดียว เป็นระยะเวลา 2 ปี และสามารถเจรจาต่อสัญญาได้ สำหรับแผนงานนี้กำหนดระเวลาความร่วมมือไว้ 2 ปี
รศ.ดร. ธวัชชัย กล่าวสรุปว่า ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการร่วมวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้ คือ เพิ่มองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีการแพทย์และสาธารณสุขของไทย โดยเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ได้เครื่องสังเคราะห์สารเภสัชรังสี 68Ga-PSMA ที่ สทน. ออกแบบด้วยตนเอง ลดการนำเข้าเครื่องสังเคราะห์ สารเคมี วัสดุอุปกรณ์ ซึ่งมีราคาสูง และเป็นการประหยัดช่วยประเทศชาติ ลดการได้รับรังสีของผู้ปฏิบัติงานและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย เป็นการพัฒนาศักยภาพ ความรู้ ความสามารถ ของนักวิจัยของ สทน. และสามารถนำเป็นเครื่องต้นแบบเพื่อผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในอนาคต